มูลนิธิคนตาบอดแห่งประเทศไทย

” ฝ่าลู่ทางชีวิตต้องคิดเฝ้าย้อมใจ โลกมืดมนเพียงใดหัวใจอย่าคร้ามเกรง
ตั้งหน้าชื่นเอาไว้ย้อมใจด้วยเพลง ไยนึกกลัวหวาดเกรงยิ้มสู้ “

ประวัติและความเป็นมา

       การก่อตั้งมูลนิธิฯ เกิดขึ้นจากแนวความคิดของ มิสเจนีวีฟ คอลฟิลด์ สตรีตาบอดชาวอเมริกัน ที่มีความมุ่งมั่นและต้องการช่วยเหลือผู้บกพร่องทางการเห็น และเห็นว่าประเทศไทยในขณะนั้นยังไม่มีองค์กรใดให้ความสนใจช่วยเหลือผู้บกพร่องทางการเห็น จึงเดินทางเข้ามาในประเทศไทยและเริ่มก่อตั้งโรงเรียนสอนคนตาบอดขึ้นเป็นแห่งแรกในประเทศไทย ณ บ้านเช่าหลังเล็ก ถนนคอชเช่ ศาลาแดง

      โดยได้ร่วมกับนักศึกษาไทยประดิษฐ์อักษรเบรลล์ภาษาไทยขึ้น ต่อมามีผู้มีจิตกุศลช่วยเหลือและสนับสนุนร่วมกันจัดตั้งมูลนิธิชื่อว่า “มูลนิธิช่วยให้การศึกษาแก่คนตาบอดในประเทศไทย” เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2482 โดยมีวัตถุประสงค์ในการให้การศึกษาแก่ผู้บกพร่องทางการเห็นตามสมควรแก่อัตภาพ เพื่อให้สามารถช่วยเหลือตัวเองและอยู่ในสังคมได้อย่างคนปกติทั่วไปโดยมิต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ

         หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 มิสเจนีวีฟ คอลฟิลด์ จำต้องวางมือจากงานเพื่อเดินทางไปญี่ปุ่น จึงได้ติดต่อขอนักบวชคณะซาเลเซียนมาช่วยบริหารงานแทน คณะซิสเตอร์ได้เข้ามาดูแลนักเรียนด้วยความเอาใจใส่ให้กำลังใจ ทำให้เด็กๆมีกำลังใจต่อสู้อุปสรรคต่างๆ พิสูจน์ให้สังคมทั่วไปเห็นว่าพวกเขามีความสามารถในการเรียนรู้ และทำสิ่งต่างๆได้ เป็นเด็กมีระเบียบวินัย ซื่อสัตย์ และมีความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ มีผู้ศรัทธาบริจาคเงินให้การสนับสนุนมากขึ้น ทำให้การศึกษาของเด็กนักเรียนผู้บกพร่องทางการเห็นเจริญก้าวหน้าและมั่นคงยิ่งขึ้น คณะซิสเตอร์ได้มอบงานคืนให้มูลนิธิฯ ในปี พ.ศ. 2535 

ในพระบรมราชินูปภัมภ์

       ในปี พ.ศ. 2502 ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงรับไว้ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ต่อมาจึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น “มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์” โดยมีคณะกรรมการมูลนิธิฯ เป็นผู้บริหารงาน

       ตลอดระยะเวลาหลายทศวรรษที่ผ่านมา มูลนิธิฯ ได้ให้การสงเคราะห์ผู้บกพร่องทางการเห็น โดยตั้งอยู่ในหลักการที่ว่า การช่วยเหลือผู้บกพร่องทางการเห็นนั้น มิใช่ช่วยเพียงการเริ่มต้นที่โรงเรียนเพื่อให้ได้รับการศึกษาเท่านั้น หากแต่ต้องช่วยพัฒนาศักยภาพและสร้างโอกาสทางวิชาชีพเพื่อหารายได้เลี้ยงตนเอง โดยไม่เป็นภาระแก่ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ จึงจะถือได้ว่าการดำเนินงานของมูลนิธิฯ นั้น สัมฤทธิ์ผลโดยสมบูรณ์

        มูลนิธิฯ ได้ดำเนินงานตามวัตถุประสงค์ข้างต้นอย่างเคร่งครัดและโปร่งใสมาโดยตลอด จนได้รับคัดเลือกเป็นหน่วยงานดีเด่นของชาติประจำปี พ.ศ. 2542 จากคณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี

วิสัยทัศน์

“เป็นผู้นำในการฟื้นฟู ส่งเสริม พัฒนาศักยภาพ และสมรรถภาพของผู้บกพร่องทางการเห็น ในประเทศไทย เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมีเกียรติและศักดิ์ศรี”

คำสอนที่ศักดิ์สิทธิ์ฝังใจพวกเราคนตาบอดไทย

"มิส เจนีวีฟ คอลฟิลด์ ได้อุทิศเวลา กำลังกาย กำลังใจ ความคิดและบางครั้งท่านก็ได้สละทรัพย์สินส่วนตัวแก่คนตาบอด ท่านไม่มีมรดกไม่มีเงินเดือน รายได้ที่นำมาเลี้ยงตนเอง ก็ได้มาจากการเขียนหนังสือ และสอนภาษาอังกฤษแก่คนตาดี"
Chris Jones
Director